วิธี กำจัด กลิ่น เหงื่อ

ไล-โอ-เพชรเกษม-77

เลี่ยงทานอาหารรสจัด/มีกลิ่นแรง อาหารที่มีรสจัดหรือมีกลิ่นแรง อย่างเช่น กระเทียม สะตอ อาหารที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศรวมถึงเนื้ออสัตว์ เมื่อรับประทานเข้าไปกลิ่นจะเข้าไปสะสมในร่างกายและขับออกมาทางเหงื่อ ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ ดังนั้นอาหารเหล่านี้ทานได้ แต่ว่าควรทานแต่น้อยจะดีกว่า 5. ซักเสื้อผ้าให้สะอาด แน่นอนว่าเสื่อผ้าที่สวมใส่มาทั้งวันจะเกิดการหมักหมม เมื่อถอดแล้วควรซักเสื้อผ้าให้เร็วที่สุดไม่ปล่อยทิ้งไว้นานหลายวัน และเน้นซักบริเวณใต้วงแขนหรือรักแร้ให้สะอาด การใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มก็จะช่วยให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้นและที่สำคัญควรตากเสื้อผ้าในพื้นที่โล่งโปร่ง ตากให้แห้งสนิท เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นอับ 6. โกนขนอย่างสม่ำเสมอ ขนบริเวณรักแร้ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว เพราะรักแร้เป็นส่วนอับในร่างกาย ยิ่งมีขนแล้วหากที่ไม่กำจัดจะเป็นแหล่งสะสมของทั้งเหงื่อและแบคทีเรีย จนทำให้เกิดกลิ่นเหม็นได้ ดังนั้นเราไม่ควรปล่อยให้ขนรักแร้ยาว ต้องคอยกำจัดออกอย่างสม่ำเสมอ 7. ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย อีกหนึ่งตัวช่วยที่ง่ายที่สุด อย่างผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ดับ กลิ่นตัว ซึ่งในปัจจุบันก็มีออกมาหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นโรลออน สารส้ม ฯลฯ ใครที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นตัว ควรใช้หลังอาบน้ำเพื่อกลิ่นหอม และความสดชื่น 8.

  1. การดับกลิ่นตัว เวลาเหงื่อออกมาก ทำอย่างไรถึงจะได้ผลดีที่สุด สะดวกที่สุึด เร็วที่สุด - Pantip
  2. 8 วิธีกำจัด กลิ่นตัว รักแร้เปียก เพิ่มความมั่นใจใต้วงแขน! - Apex Profound Beauty
  3. 9 วิธีกำจัดกลิ่นเต่าติดเสื้อสุดง่าย บอกลาปัญหากลิ่นรักแร้ติดเสื้อไปได้เลย - TIPSZA
  4. กำจัดกลิ่นตัว ลดเหงื่อ มันใจทั้งวัน..ตัวไม่เหม็น - Apex Profound Beauty
  5. 5 วิธีลดกลิ่นตัว ลดกลิ่นเหงื่อ แบบไม่ต้องฉีดน้ำหอม ไม่ต้องใช้โรลออน
  6. วิธีการ ขจัดกลิ่นเหม็นของโซฟา: 14 ขั้นตอน (พร้อมรูปภาพ) - wikiHow

การดับกลิ่นตัว เวลาเหงื่อออกมาก ทำอย่างไรถึงจะได้ผลดีที่สุด สะดวกที่สุึด เร็วที่สุด - Pantip

  1. Promotion กระเบื้องแกรนิตโต้ 60x60 และคอตโต้ ราคาพิเศษ - ไถ่เชียงโฮมแม็กซ์ : Taichieng Homemax
  2. OTO จ่อรับรู้รายได้อีสปอร์ต เตรียมเปิดระบบ Game Tournament ไตรมาส2-3ปีนี้
  3. Scoopy 2019 ราคา live
  4. กลิ่นตัว วิธีแก้กลิ่นตัว บทความ กลิ่นตัวแรงทําอย่างไร
  5. 8 วิธีกำจัด กลิ่นตัว รักแร้เปียก เพิ่มความมั่นใจใต้วงแขน! - Apex Profound Beauty
  6. ตาราง สอบ ic plain dealer
  7. วิธีการ ขจัดกลิ่นเหม็นของโซฟา: 14 ขั้นตอน (พร้อมรูปภาพ) - wikiHow
  8. ไฟประดับ ราคาถูก จัดส่งทั่วประเทศ - Sirichai Electric

8 วิธีกำจัด กลิ่นตัว รักแร้เปียก เพิ่มความมั่นใจใต้วงแขน! - Apex Profound Beauty

วอดก้าฆ่าเชื้อโรค "วอดก้า" นอกจากจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โปรดของใครหลายคน แต่ใครจะไปรู้ว่าวอดก้าเป็นคุณสมบัติช่วยฆ่าแบคทีเรียและลดกลิ่นอับบนเสื้อผ้า ให้ผสมวอดก้ากับน้ำในปริมาณที่เท่ากัน เทใส่ลงฟ๊อกกี้แล้วพ้นลงคราบเหลือง ทิ้งไว้สักพัก แล้วนำไปซักตามปกติ 5. เบกกิ้ง โซดา เบคกิ้งโซดาเปรียบเสมือนผงวิเศษ เพราะนอกจากจะเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารแล้ว ยังสามารถช่วยขจัดคราบเหลืองบนเสื้อผ้าและลดกลิ่นอับบนเสื้อผ้าได้ด้วย สำหรับคราบเหลืองที่แห้งกรังแล้ว ให้ผสมเบกกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ ¼ ถ้วยตวง แล้วนำมาป้ายลงบนคราบเหลือง ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ก่อนจะนำไปซักตามปกติ 6. สบู่ก้อน ขจัดคราบ สบู่ก้อนที่เราเอาไว้ชำระร่างกาย ขจัดคราบเหงื่อไคลออก สบู่ก้อนเดียวนี่แหละไม่แพ้น้ำยาซักผ้าเลยนะ อีกทั้งยังไม่ทำลายเนื้อผ้าอีกด้วย ให้นำเสื้อผ้าที่เปื้อนคราบสีเหลือง นำมาป้ายน้ำเปล่า แล้วนำก้อนสบู่มาถูคราบ ขยี้แรง ๆ ให้กอดฟอง หลังจากนั้นให้นไปซักตามปกติ 7. น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างจานที่ช่วยขจัดความมันของอาหาร ที่เป็นของใช้ในครัว สามารถนำมาขจัดคราบเหลืองได้ดีเชียวล่ะ ขั้นตอนแรกให้นำเสื้อที่เปื้อนคราบเหลือง นำน้ำยาล้างจานมาป้าย ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำอุ่น แล้วซักด้วยผงซักฟอกอีกครั้ง 8.

9 วิธีกำจัดกลิ่นเต่าติดเสื้อสุดง่าย บอกลาปัญหากลิ่นรักแร้ติดเสื้อไปได้เลย - TIPSZA

กำจัดกลิ่นตัว ลดเหงื่อ มันใจทั้งวัน..ตัวไม่เหม็น - Apex Profound Beauty

ใช้โรลออน โรลออนที่ขายอยู่ตามท้องตลาดของเราจะถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือโรลออนที่มีสารระงับกลิ่นและโรลออนที่มีสารระงับเหงื่อ โดยโรลออนระงับเหงื่อจะใช้สารในกลุ่มอลูมิเนียมคลอไรด์ ทำหน้าที่ไปอุดที่ต่อมของเหงื่อ ทำให้เหงื่อไม่ออกค่ะ ซึ่งเมื่อเหงื่อออกน้อยก็ทำให้ความชื้นแฉะน้อย แบคทีเรียก็จะทำงานได้น้อยและทำให้กลิ่นลดลงได้ ส่วนโรลออนอีกประเภทคือโรลออนที่มีสารระงับกลิ่น กลุ่มนี้จะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในการลดเหงื่อ แต่จะเป็นลักษณะเหมือนน้ำหอมค่ะ ซึ่งจะให้กลิ่นหอมและยังสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียบริเวณผิวหนังให้ลดจำนวนลง สามารถช่วยลดกลิ่นตัวได้และมีกลิ่นหอมเพิ่มขึ้นมาด้วย 2. สบู่ฆ่าเชื้อ แบคทีเรียที่มาพร้อมกับเหงื่อนั้น จะเข้าไปย่อยสลายผิวหนังกำพร้าและทำให้เกิดกลิ่นเหงื่อและกลิ่นตัวขึ้นมาได้ หน้าที่ของสบู่ฆ่าเชื้อ จะสามารถเข้าไปกำจัดแบคทีเรียบางส่วน ทำให้แบคทีเรียมีจำนวนลดน้อยลง ซึ่งเมื่อแบคทีเรียลดน้อยลงก็จะทำให้กลิ่นตัวลดลงไปด้วยค่ะ 3. ลดการอาหารที่มีกลิ่น อาหารจะมีผลโดยตรงกับต่อมเหงื่อของเราค่ะ หากเราทานอาหารที่มีกลิ่นค่อนข้างแรงก็จะทำให้เหงื่อของเรามีกลิ่นฉุนได้ โดยอาหารที่มีกลิ่นแรงเช่น กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศจำนวนมาก รวมถึงยาบางอย่าง เช่น ยาเพนนิซิลิน ก็สามารถที่จะทำให้เกิดกลิ่นเหงื่อได้เช่นกัน นอกจากนี้ผู้ที่มีภาวะอ้วนหรือว่าภาวะเบาหวาน ภาวะพวกนี้สามารถทำให้เกิดกลิ่นตัวที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้นได้ ซึ่งหากจะลดกลิ่นตัวที่เกิดจากภาวะเหล่านี้ต้องรักษาสุขอนามัยที่ดี อาบน้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ 2 ครั้ง และอาจจะใช้สบู่ที่เป็นสบู่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียก็ได้ค่ะ 4.

5 วิธีลดกลิ่นตัว ลดกลิ่นเหงื่อ แบบไม่ต้องฉีดน้ำหอม ไม่ต้องใช้โรลออน

เหมือนพวกนัีกร้องบนเวที เต้นเสร็จเหงื่อออกท่วมตัว ไปหลังเวที เค้าจะดูแลตัวเองยังไง ไม่ให้มีกลิ่นตัว อยากทราบเคล็ดลับ จากกระทู้...... ดารานักร้องเค้าดูแลตัวเองยังไง ไม่ให้มีกลิ่นตัว // กระทู้่เก่ายังไม่ได้คำตอบแน่ชัด แสดงความคิดเห็น

วิธีการ ขจัดกลิ่นเหม็นของโซฟา: 14 ขั้นตอน (พร้อมรูปภาพ) - wikiHow

เบกกิ้งโซดา เริ่มจากผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำเปล่าอย่างละครึ่ง คนส่วนผสมให้ข้นเหนียว จากนั้นกลับตะเข็บเสื้อผ้าเอาด้านในออก แล้วป้ายเบกกิ้งโซดาลงไปบนบริเวณที่มีกลิ่นเหงื่อสะสม เช่น ใต้แขนเสื้อหรือคอเสื้อ เสร็จแล้วปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย 15-30 นาที หรือข้ามคืน หลังจากนั้นก็นำไปซักตามปกติ เบกกิ้งโซดาก็จะช่วยดูดกลิ่นออกไป แถมไม่ทำให้เนื้อผ้าเสียหายอีกต่างหาก 5. น้ำยาล้างจาน ไม่ใช่แค่ทำความสะอาดจาน แต่น้ำยาล้างจานยังสามารถทำความสะอาดกลิ่นเหงื่อติดเสื้อได้ด้วย โดยมีขั้นตอนดังนี้ ใช้น้ำอุ่นประมาณ 3-4 ถ้วยตวง ผสมเข้ากับน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา คนให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำเสื้อผ้าที่เหม็นกลิ่นเหงื่อลงไปแช่ประมาณ 1 ชั่วโมง เสร็จแล้วก็นำไปซักทำความสะอาดและตากแดดให้แห้งแบบธรรมชาติ น้ำยาล้างจานจะช่วยกำจัดกลิ่นเหม็น พร้อมต่อต้านแบคทีเรียไปในตัว ที่สำคัญยังไม่ทำร้ายเนื้อผ้าตัวโปรดของเราด้วย ดีสุด ๆ ไปเลยล่ะ 6. น้ำยาบ้วนปาก สำหรับกลิ่นเหงื่อใต้วงแขน ให้เราตรงเข้าห้องน้ำไปหยิบน้ำยาบ้วนปากออกมา จากนั้นเทราดบนเสื้อผ้าบริเวณที่มีกลิ่นเหงื่อติดเป็นจำนวนหลาย ๆ ฝา เสร็จแล้วปล่อยไว้สักครึ่งชั่วโมง พอครบกำหนดก็นำไปซักทำความสะอาดตามปกติได้เลย 7.

น้ำมะนาว น้ำมะนาวมีคุณสมบัติช่วยขจัดรังแคบนหนังศีรษะ ดังนั้นเราจะมองข้ามไปไม่ได้เลยจริงๆ ส่วนวิธีทำก็ไม่ยากเลยค่ะ ผสมน้ำมะนาวกับน้ำสะอาด 2 ถ้วยให้เจือจาง นำมาผสมกับแชมพู แล้วสระผมตามปกติ ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด 10. น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล (Apple Cider Vinegar) ใน ACV เต็มไปด้วยคุณสมบัติที่ช่วยทำความสะอาดเส้นผมอย่างอ่อนโยนและลดกลิ่นเหม็นของหนังศีรษะ โดยจะช่วยรักษาค่า pH ให้สมดุลนั่นเอง ไปเริ่มทำกันเลย! ผสมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลครึ่งช้อนกับน้ำสะอาด 1 ถ้วย ชโลมให้ทั่วหนังศีรษะ และทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที จากนั้นล้างออกและเช็ดผมให้แห้ง คนที่หัวเหม็นหรือมันง่ายลองเอาเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้กันดูนะคะ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีควรทำอย่างสม่ำเสมอ ประกอบกับการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เหมาะกับตนเองด้วยน้า นอกจากนี้ยังต้องรู้จักดูแลเรื่องอาหารการกินและเครื่องดื่มด้วย เพียงเท่านี้ผมของเราก็มีสุขภาพดีตามใจต้องการแล้วล่ะค่ะ source: curejoy, key, etsy, mjskitchen, howto, vk, oldworld, naturalon, prevention, young, brit

น้ำมันลาเวนเดอร์ หนึ่งในน้ำมันหอมระเหยที่นิยมใช้กันทั่วไปก็คือ น้ำมันลาเวนเดอร์นี่เองค่ะ เพราะมีประโยชน์หลายอย่างต่อเส้นผม ได้แก่ มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ยังเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ และช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตไปยังเส้นผม ทำให้เส้นผมของเราเจริญเติบโตได้ดีขึ้น ซึ่งสามารถนำน้ำมันลาเวนเดอร์มาใช้เพื่อลดหัวเหม็นได้ดังนี้ ก่อนอื่นต้องสระผมให้สะอาดก่อน สระตามปกติเลยค่ะ (แนะนำว่าควรใช้แชมพูที่ไม่มีสารซัลเฟต) จากนั้นก็เป่าผมให้แห้ง หยดน้ำมันลาเวนเดอร์ลงบนหนังศีรษะ 5 หยด แล้วนวดเบาๆ ทั่วทั้งหัว กลิ่นหอมๆ ของน้ำมันจะติดทนตลอดวันเลยล่ะ 7. ทีทรีออยล์ (Tea Tree Oil) น้ำมันขวดเล็กๆ นี้มีสรรพคุณในการลดรังแคและอาการคันของหนังศีรษะได้ดี ทั้งยังช่วยลดกลิ่นเหม็นได้ด้วยเพราะมีคุณสมบัติต้านเชื้อจุลินทรีย์และขจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เจือจางทีทรีออยล์ 3-4 หยด ในน้ำอุ่น นำมาราดลงบนหนังศีรษะ และทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที จากนั้นสระผมด้วยแชมพูปราศจากซัลเฟตตามปกติ 8. น้ำมัน Margosa (น้ำมันสะเดา) น้ำมันสะเดาคือหนึ่งในสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายๆ ด้าน ทั้งยังมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการคันหนังศีรษะ รังแค และลดกลิ่นเหม็นของเส้นผมได้ นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมและรักษาโรคกลากได้อีกด้วย นำน้ำมันสะเดามาเจือจางด้วยการผสมกับน้ำมันมะพร้าว โจโจ้บาออยล์ หรือน้ำมันมะกอก โดยกะให้มีน้ำมันสะเดาประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ นำน้ำมันที่ผสมไว้มาทาลงบนหนังศีรษะและนวดเบาๆ ล้างออกด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยน อีกวิธีคือใส่น้ำมันที่ผสมไว้ลงในแชมพู 2-3 หยด แล้วนำมาใช้สระผมโดยตรงก็ได้เช่นกัน 9.